4 สิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อซื้อเครื่องเล็มพุ่มไม้ในปี 2023

มีเครื่องเล็มพุ่มไม้สามประเภท: เครื่องเล็มพุ่มไม้แบบสองด้าน แบบด้านเดียว และแบบเสา เลือกชนิดที่เหมาะกับความต้องการทำสวนของคุณที่สุด

เครื่องเล็มพุ่มไม้แบบสองด้าน เหมาะสำหรับการตัดแต่งรูปร่าง

เครื่องเล็มพุ่มไม้แบบสองด้านเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดถ้าคุณจะตัดแต่งรูปร่างพุ่มไม้ เครื่องเล็มพุ่มไม้แบบสองด้านยังสามารถติดตั้งด้ามจับด้านหลังแบบปรับได้เพื่อให้มีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นและถูกหลักสรีรศาสตร์เมื่อตัดแต่งด้านข้างของพุ่มไม้

เครื่องเล็มพุ่มไม้แบบด้านเดียว เหมาะสำหรับพื้นที่ใหญ่กว่า

หากคุณกำลังมองหาเครื่องเล็มพุ่มไม้สำหรับการตัดแต่งเป็นแนวตรง เครื่องเล็มพุ่มไม้แบบด้านเดียวจะเหมาะกับความต้องการของคุณอย่างสมบูรณ์แบบ แท่งตัดมีฟันเพียงด้านเดียวจึงทำให้เสริมใบมีดให้ยาวขึ้นได้โดยไม่ทำให้เครื่องหนักเกินไป และใบมีดที่ยาวขึ้นช่วยให้คุณตัดแต่งพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ด้วยการกวาดใบมีดครั้งเดียว

เครื่องเล็มกิ่งพุ่มไม้เหมาะสำหรับการตัดที่มีระยะยื่นยาว

เครื่องเล็มกิ่งพุ่มไม้เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการตัดพุ่มไม้สูงและต่ำ รวมถึงพืชคลุมดินด้วย การมีระยะยื่นยาวหมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องใช้บันได และความสามารถในการปรับมุมของแท่งตัดช่วยให้สามารถตัดแต่งได้รวดเร็วและสะดวกยิ่งขึ้น

เครื่องเล็มพุ่มไม้แบบแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดคืออะไร

เครื่องเล็มพุ่มไม้พลังงานแบตเตอรี่สมัยใหม่นั้นแข็งแรง เสียงเบามาก การสั่นสะเทือนต่ำ และบำรุงรักษาได้ง่าย หากคุณทำงานเป็นเวลานาน แบตเตอรี่เสริมหรือแบตเตอรี่แบบสะพายหลังจะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการทำงานของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบายยิ่งขึ้น ตรวจสอบแผนภูมิระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่ของเราสำหรับระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่/การใช้งานร่วมกับผลิตภัณฑ์

เครื่องเล็มพุ่มไม้และเครื่องตัดพุ่มไม้แบบใช้น้ำมันที่ดีที่สุดคืออะไร

เครื่องเล็มพุ่มไม้ที่ใช้น้ำมันมีเครื่องยนต์ที่แข็งแกร่ง ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานที่ยากขึ้น เช่น การตัดแต่งพุ่มไม้ที่รกทึบหรือเติบโตเต็มที่

แม้ว่าจะหนักกว่าและเสียงดังกว่าเครื่องที่ใช้แบตเตอรี่ แต่สามารถใช้ทำงานได้ยาวนานกว่า จึงเหมาะกับสวนและพุ่มไม้ที่ใหญ่กว่า และยังช่วยให้คุณทำงานได้เร็วขึ้นอีกด้วย

ดูที่ขนาดความจุของกระบอกสูบ ซึ่งจะช่วยให้ทราบกำลังของเครื่องยนต์ได้ เครื่องที่มีความจุของกระบอกสูบขนาดใหญ่จะเหมาะกับสถานการณ์การตัดแต่งที่ท้าทายมากขึ้น แต่จะใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้นและต้องมีการบำรุงรักษาเป็นประจำมากขึ้น